11 กรกฎาคม 2563 คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่บ้านปู่พึ้ม จ. สกลนคร เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมผลักดันงบประมาณสู่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

ที่มา : http://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG200711110314013
นายไพจิต ศรีวรขาน ประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร นายนิยม เวชกามา สส.สกลนคร เขต 2 นายสุชาติ เจริญศรี รองอธิบดีกรมชลประทาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาหนองหาร การชลประทาน พร้อมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ทั้งภัยแล้งและอุทกภัย เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ ที่บ้านปู่พึ้ม ต.บ้านโพน อ.โพนนาแก้ว
จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาดูงาน และติดตามความคืบหน้าโครงการประตูระบายน้ำลำน้ำพุง-น้ำก่ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดสกลนคร รวมถึงคลองผันน้ำร่องช้างเผือก ที่ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร โดยพบว่า ปัญหาที่บ้านปู่พึ้ม ซึ่งมีน้ำก่ำไหลผ่าน ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ในการผันน้ำสู่ภาคการเกษตร แต่เมื่อถึงฤดูน้ำหลากก็จะได้รับผลกระทบ โดยในบางปีน้ำได้เอ่อท่วมพื้นที่ไร่นาจยเกิดความเสียหาย รวมถึงถนนทางเข้าหมู่บ้าน และในปีที่เกิดน้ำท่วมใหญ่จังหวัดสกลนครที่ผ่านมา พบว่า หมู่บ้านแห่งนี้ได้กลายเป็นเกาะกลางทะเลสาบ รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันได้มีการขุดลอกและปรับปรุงคันดินน้ำก่ำให้สูงและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
นายไพจิต ศรีวรขาน ประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในแต่ละปี บ้านปู่พึ้มจะถูกน้ำเอ่อท่วมพื้นที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ภาครัฐต้องนำถุงยังชีพและความช่วยเหลือในด้านต่างๆ มาให้ ซึ่งเราไม่ต้องการเห็นภาพเช่นนั้น เราต้องการเห็นชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของชาวบ้าน คือน้ำต้องไม่ท่วมในฤดูน้ำหลาก และมีน้ำใช้ในภาคการเกษตรในฤดูแล้ง ซึ่งหน่วยงานทุกภาคส่วนก็ได้บูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยมีการวาแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ถ้าติดขัดตรงไหนทางกรรมาธิการฯ ก็จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน ผลักดันงบประมาณเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร่งด่วนต่อไป
สำหรับโครงการประตูระบายน้ำลำน้ำพุง-น้ำก่ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดสกลนคร ต่อเนื่องคลองผันน้ำร่องช้างเผือก ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง วงเงินงบประมาณ 2,100 ล้านบาท เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ จะสามารถผันน้ำจากลำน้ำพุงที่ไหลลงสู่พื้นที่อำเภอโคกศรีสุพรรณ และพื้นที่น้ำพุงตอนล่าง ให้ไหลไปลงที่ลำน้ำก่ำ ช่วยลดปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่หนองหารได้ร้อยละ 40 ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้งในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ทางคณะกรรมาธิการฯ ยังได้แนะนำทางชลประทานในการพร่องน้ำเพื่อ รองรับมวลน้ำในฤดูน้ำหลากในอนาคต นอกจากนี้ยังรวมถึงการปรับปรุงคันคลองแหล่งน้ำสำคัญต่างๆ ให้มีความั่นคงแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย