เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. …. (ฉบับใหม่)
จังหวัดภูเก็ตมีความหลากหลายของระบบนิเวศ และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทำให้จังหวัดภูเก็ตได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มีการพัฒนาจนเกินขีดความสามารถของพื้นที่ที่จะรองรับได้ ส่งผลกระทบและนำมาซึ่งความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น การบุกรุกพื้นที่สาธารณะ ปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การใช้ประโยชน์ที่ดินบนพื้นที่สูง เป็นต้น ดังนั้น เพื่อแก้ไขและฟื้นฟูวิกฤติของคุณภาพสิ่งแวดล้อม และการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศให้เกิดความยั่งยืน และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จึงได้ใช้มาตรา 43 – 45 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 กำหนดให้พื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นเขตพื้นที่ที่ให้ใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา จนถึงการออกประกาศที่ใช้บังคับในปัจจุบัน คือ ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2560 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2565
จากการติดตามผลการดำเนินการประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พบว่า ตลอดระยะเวลาการประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมที่ผ่านมา มีความสัมฤทธิ์ผลโดยสามารถลดระดับความรุนแรงของความเสื่อมโทรมที่เกิดต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงได้ในระดับหนึ่ง ตลอดจนหลายฝ่ายเห็นว่า สามารถคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในภาพรวมได้ อย่างไรก็ตาม จากเหตุผลการสิ้นสุดการบังคับการใช้ประกาศฯ ประกอบกับปัจจุบันภาครัฐได้มุ่งสร้างฐานการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ส่งผลให้จังหวัดภูเก็ตต้องมีการพัฒนาเมืองขยายการเติบโตในด้านการท่องเที่ยวและด้านต่าง ๆ ที่เพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้เกิดปัญหาการคุกคามและความเสื่อมโทรมขอทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จึงได้ดำเนินการปรับปรุงประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต และการจัดทำข้อเสนอแนะการปรับปรุงมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง การจัดทำ (ร่าง) ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. …. (ฉบับใหม่) พร้อมแผนที่ท้ายประกาศ โดยได้มีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับหน่วยงานปฏิบัติในพื้นที่ การจัดประชุม Focus group การจัดทำแบบสอบถาม รวมทั้ง การนำร่างประกาศกระทรวงฯ จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. …. (ฉบับใหม่) ไปจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในระดับอำเภอ เมื่อวันที่ 23 – 25 พฤศจิกายน 2564 และในระดับจังหวัด เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 จากนั้น สำนักงานนโยบายฯ ได้นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอมาวิเคราะห์เพื่อจัดทำร่างประกาศกระทรวงฯ จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. …. (ฉบับใหม่) และได้นำเสนอต่อคณะอนุกรรมการพิจารณาการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้พิจารณา ในการประชุมครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ มีมติเห็นชอบในหลักการของร่างประกาศกระทรวงฯ จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. …. (ฉบับใหม่) แล้ว
ดังนั้น เพื่อให้การรับฟังความคิดเห็นครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำร่างประกาศกระทรวงฯ จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. …. (ฉบับใหม่) ให้ครบถ้วนและสมบูรณ์ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 77 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 สผ. จึงขอเปิดรับฟังความคิดเห็นจากท่านผ่านทางเว็บไซต์ www.onep.go.th. ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2565 ถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2565 โดยท่านสามารถพิจารณาเอกสารที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดปรากฏตามไฟล์ที่แนบ และขอได้โปรดแสดงความคิดเห็นไปที่ E-mail : Protect@onep.go.th หรือ แบบสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ หรือ ทางไปรษณีย์ ที่อยู่ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 118/1 อาคารทิปโก้ 2 ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองสิ่งแวดล้อมชุมชนและพื้นที่เฉพาะ (กลุ่มงานพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม)
โทรศัพท์/โทรสาร 0 2265 6572