รมว.ทส. หารือทวิภาคีกับผู้แทนพิเศษของสหรัฐอเมริกาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในช่วงการประชุม COP27
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย COP27 พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช เลขาธิการ สผ. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และนางสาวแคทรียา ปทุมรส ผู้อำนวยการกองกิจการเพื่อการพัฒนา กรมองค์การระหว่างประเทศ ร่วมหารือทวิภาคีกับสหรัฐอเมริกา นำโดย Mr. Rick Duke Deputy Special Envoy for Climate และเจ้าหน้าที่จาก Office of the Special Envoy for Climate เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเด็นการดำเนินงานที่สำคัญของทั้งสองประเทศ และโอกาสในการพัฒนาความร่วมมือของไทยกับสหรัฐอเมริกาเพื่อรับมือกับความท้าทายนี้
รมว.ทส. และคณะ รับทราบว่า สหรัฐอเมริกาเชิญชวนประเทศไทยเข้าร่วมข้อริเริ่มระดับโลกด้านการลดก๊าซมีเทน (Global Methane Pledge) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อร่วมกันลดการปล่อยก๊าซมีเทนของโลกร้อยละ 30 ภายในปี ค.ศ. 2030 ครอบคลุมทั้งภาคเกษตร พลังงาน อุตสาหกรรม และข้อริเริ่มด้านยานยนต์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Zero Emission Vehicle Goal: ZEV) ซึ่งมีเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนการขาย ZEV ขนาดเล็กให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปี ค.ศ. 2030 ซึ่งมีความสอดคล้องกับทิศทางของประเทศไทยในภาพรวม
รมว.ทส. ได้แลกเปลี่ยนการดำเนินงานของของประเทศไทยที่มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 ที่ครอบคลุมทุกภาคส่วนทางเศรษฐกิจ ควบคู่กับการคำนึงถึงขีดความสามารถในการดำเนินงานของแต่ละสาขา โดยเฉพาะการลด
การปล่อยก๊าซมีเทนในภาคการเกษตรที่เกษตรกรจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีปฏิบัติและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำหรับ ZEV ประเทศไทยมีมาตรการที่จะเพิ่มการผลิต ZEV เป็นร้อยละ 30 จากสัดส่วน
การผลิตรถยนต์ทั้งหมด ภายในปี ค.ศ. 2030 อย่างไรก็ตาม การผลักดันเพื่อเร่งการดำเนินงานต้องอาศัยความร่วมมือและการสนับสนุนจากต่างประเทศทั้งด้านการเงินและเทคนิค ทั้งนี้ ทส. จะสื่อสารข้อริเริ่มกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาตามกระบวนการภายในประเทศ โดยคาดหวังว่า การดำเนินงานดังกล่าวร่วมกัน จะสนับสนุนการรักษา Pathway 1.5 องศาเซลเซียสตามเป้าหมายของความตกลงปารีสต่อไป


จัดทำและเผยแพร่โดย : กลุ่มงานอำนวยการและประชาสัมพันธ์ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.)