พื้นที่สีเขียว Safe Zone สำหรับคนเมือง
ท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบตลอดเวลาของคนเมือง อีกทั้งต้องเผชิญกับปัญหาสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน อาทิ ปัญหาการจราจรติดขัด ความแออัดของเมืองและปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหามลพิษทางเสียง มลพิษทางอากาศปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ปรากฏการณ์เกาะความร้อน และปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น เช่น น้ำท่วมฉับพลันและอุณหภูมิที่สูงขึ้น เป็นต้น หากคนเมืองต้องพบเจอกับปัญหาเหล่านี้ ในทุก ๆ วัน ย่อมส่งผลต่อสุขภาพทั้งกายและใจ และคุณภาพชีวิต ที่มีแนวโน้มมากยิ่งขึ้น ทำให้คนเมืองมีการปรับตัวในการใช้ชีวิต และการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม โดยหันมาสนใจ สิ่งแวดล้อมและมองหา “พื้นที่สีเขียว” มากขึ้น และเพราะอะไรคนเมืองถึงต้องมองหาพื้นที่สีเขียวให้กับตัวเอง
ท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบตลอดเวลาของคนเมือง อีกทั้งต้องเผชิญกับปัญหาสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน อาทิ ปัญหาการจราจรติดขัด ความแออัดของเมืองและปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหามลพิษทางเสียง มลพิษทางอากาศปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ปรากฏการณ์เกาะความร้อน และปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น เช่น น้ำท่วมฉับพลันและอุณหภูมิที่สูงขึ้น เป็นต้น หากคนเมืองต้องพบเจอกับปัญหาเหล่านี้ ในทุก ๆ วัน ย่อมส่งผลต่อสุขภาพทั้งกายและใจ และคุณภาพชีวิต ที่มีแนวโน้มมากยิ่งขึ้น ทำให้คนเมืองมีการปรับตัวในการใช้ชีวิต และการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม โดยหันมาสนใจ สิ่งแวดล้อมและมองหา “พื้นที่สีเขียว” มากขึ้น และเพราะอะไรคนเมืองถึงต้องมองหาพื้นที่สีเขียวให้กับตัวเอง
ในมิติสิ่งแวดล้อม “พื้นที่สีเขียว” มีส่วนช่วยลดอุณหภูมิของเมือง โดยนักวิจัยพบว่าพื้นที่สีเขียว โดยเฉพาะสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ใหญ่ ลดอุณหภูมิโดยรอบลงได้ มากถึง 5 องศาเซลเซียส และมีการศึกษา 17 องศาเซลเซียส ส่งผลให้สามารถลดการใช้เครื่องปรับอากาศได้ถึงร้อยละ 50 การเพิ่มอากาศบริสุทธิ์เพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นบรรยากาศ ลดภาวะโลกร้อน ลดปัญหา PM2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญของคนเมือง หากเรามีพื้นที่สีเขียวมากพอที่จะช่วยกรองอากาศ ทำให้อากาศที่เราหายใจสะอาดขึ้น และคาดว่าจะลดปริมาณฝุ่นได้ร้อยละ 7-24 และต้นไม้ 1 ต้น สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้เฉลี่ย 9-15 กิโลกรัม/ปี นอกจากนี้พื้นที่สีเขียวช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้อยใหญ่ และรักษาระบบนิเวศ ทำให้เมืองน่าอยู่ และยังมีประโยชน์ในมิตินี้อีกมากมาย อาทิช่วยลดเสียงรบกวนลงได้ โดยอาศัยพุ่มใบที่หนาทึบดูดซับมลภาวะทางเสียง เป็นพื้นที่ซึมน้ำ และช่วยป้องกันการกัดเซาะพังทลายของดิน
“พื้นที่สีเขียว” เป็นพื้นที่เชื่อมสัมพันธ์ทางสังคม และเชื่อมโยงให้คนเมืองได้สัมผัสกับธรรมชาติจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ผ่านมา พบว่าคนเมืองนิยมใช้บริการพื้นที่สีเขียวหรือสวนสาธารณะเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก สำหรับการนันทนาการ พักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกายและพบปะพูดคุยที่ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิด มิตรภาพ และความสัมพันธ์ของคนในเมือง เนื่องจากพื้นที่สีเขียวช่วยให้รู้สึกถึงความผ่อนคลายและลดความเครียดที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น รวมทั้งช่วยสร้างบรรยากาศในการพบปะ สังสรรค์ และร่วมมือกัน ซึ่งสิ่งเหล่านำไปสู่การเสริมสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับคนเมือง
ประโยชน์ของ “พื้นที่สีเขียว” อีกมิติหนึ่งที่จะมองข้ามไม่ได้ คือ พื้นที่สีเขียวสามารถสร้างรายได้เป็นอย่างมาก โดยในปัจจุบันผู้คนหันมาสนใจการปลูกต้นไม้ หรือเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวเองมากขึ้นทั้งไม้ประดับหรือไม้พันธุ์ด่าง ทำให้ต้นไม้เป็นที่นิยมของตลาด เกิดการซื้อขายกันในราคาที่สูงขึ้น จนบางคนสามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ทำให้สามารถปลดหนี้และมีอาชีพในปัจจุบัน ในขณะที่บางชุมชนบางพื้นที่ มีการปลูกพืชผักสวนครัวเป็นแหล่งอาหารของครัวเรือนและชุมชน เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจ โดยในปี พ.ศ. 2565 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้สอบถามความคิดเห็นและมุมมองการดำเนินงานด้านพื้นที่สีเขียว โดยเน้น “พื้นที่สีเขียวกินได้/พื้นที่สำหรับผักสวนครัว” ต่อเศรษฐกิจครัวเรือน เพื่อให้เห็นความสำคัญของการมีพื้นที่สีเขียวที่มีประโยชน์ต่อการดำเนินงานด้านปากท้องและเศรษฐกิจครัวเรือน พบว่า ร้อยละ 69.36 เห็นว่าการมีพื้นที่สีเขียวกินได้/พื้นที่สำหรับผักสวนครัวช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และผู้ที่เห็นว่าการทำพื้นที่สีเขียวกินได้/พื้นที่สำหรับผักสวนครัวช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ได้มากกว่า 100 บาท/เดือน คิดเป็นร้อยละ 58.86 (จากผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 235 คน) นอกจากนี้ ในประโยชน์ทางอ้อม พื้นที่ข้างเคียงกับพื้นที่สีเขียวมักจะมีราคาที่ดินสูง อีกทั้งพื้นที่สีเขียวมีศักยภาพเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน
นี่เป็นเพียงเหตุผลส่วนหนึ่ง ในเหตุผลอีกมากมายที่ยังไม่ได้กล่าวถึง แต่สามารถทำให้เราเข้าใจได้ว่าทำไมคนเมืองถึงต้องมองหา “พื้นที่สีเขียว” เพราะพื้นที่สีเขียวเป็น Safe Zone ชั้นเลิศสำหรับคนเมืองทีเดียว เนื่องจากพื้นที่สีเขียวส่งผลดีต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของผู้คนในเมืองเป็นอย่างมาก แล้วสำหรับคุณ “พื้นที่สีเขียว” เป็น Safe Zone มากน้อยเพียงใด
บทความโดย นางสาวกัญติยา สดใส นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ กองสิ่งแวดล้อมชุมชนและพื้นที่เฉพาะ (กชพ.) บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ KM for Journey to be the writers
เอกสารอ้างอิง
1. ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน. (13 มีนาคม 2567). ลดอุณหภูมิกทม.ได้มากถึง 5 องศา ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว. https://atime.live/greenwave/greenheart/7280.
2. สมาคมเพื่อนชุมชน. (7 มิถุนายน 2564). พื้นที่สีเขียวมีคุณประโยชน์ อย่างไรบ้าง..
3. Supang Chatuchinda. (15 มกราคม 2562).พื้นที่สีเขียว อีกทางเลือกในการลดฝุ่นPM2.5.https://www.greenpeace.org/thailand/story/1874/green-areas-.
4. Smart Greeny. (ม.ป.ป.). ต้นไม้ 1 ต้น ช่วยลดคาร์บอนในอากาศได้เท่าไหร่ ?. https://smartgreeny.com/ต้นไม้-1-ต้น-ช่วยลดคาร์บอ/.