6 มีนาคม 2567 รู้หรือไม่! มีเพียง 2 ประเทศในโลกที่ให้สัตยาบัน “สนธิสัญญาทะเลหลวง”

รู้หรือไม่! มีเพียง 2 ประเทศในโลกที่ให้สัตยาบัน “สนธิสัญญาทะเลหลวง”

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ (https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9670000019777)

ข่าววานนี้ (4 มีนาคม 2567) นับเป็นวันครบรอบหนึ่งปีการบรรลุข้อตกลงสนธิสัญญาที่ว่าด้วยการจัดระเบียบการใช้ทรัพยากรพันธุกรรมและความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลในพื้นที่ที่อยู่นอกเขตอำนาจรัฐ (BBNJ) หรือ
เรียกสั้นๆว่า สนธิสัญญาทะเลหลวง

หลังบรรลุข้อตกลงดังกล่าวในเดือนมีนาคม 2566 เดือนกันยายนปีเดียวกัน ได้มีการลงชื่ออย่างเป็นทางการโดยตัวแทนรัฐบาล 87 ประเทศทั่วโลก ซึ่งกระบวนการต่อจากนี้ คือรัฐบาลประเทศต่างๆ ให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาฉบับดังกล่าว* โดยสนธิสัญญาฉบับนี้ จะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่ออย่างน้อยประเทศ 60 ประเทศให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญา แม้การได้มาซึ่งสนธิสัญญาฉบับนี้จะถือเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะกว่าจะได้มาเรียกได้ว่าต้องฝ่าแดดลมฝน ผ่านการเรียกร้องกันยาวนานมากกว่ายี่สิบปี แต่กระบวนการต่อจากนี้ก็ยังเป็นเรื่องท้าทาย เพราะผ่านมาหนึ่งปีแล้ว กลับมีเพียงสองประเทศเท่านั้นที่ให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาทะเลหลวงแล้ว นั่นคือ ชิลีและปาเลาสำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย นางสาวณิชนันท์ ตัญธนาวิทย์ หัวหน้าโครงการรณรงค์ด้านทะเลและมหาสมุทร กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหนึ่งในผู้สังเกตการณ์การเจรจาสนธิสัญญาเมื่อปีที่แล้ว อธิบายว่า..ปัจจุบันยังไม่ได้มีการลงนามเต็มหรือลงนามจริง ที่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความยินยอมเข้าผูกผันตามสนธิสัญญา ที่จะไปสู่การให้สัตยาบันในขั้นต่อไป“

แต่ทั้งนี้ เราก็เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลไทยที่จะเร่งผลักดันกระบวนการดังกล่าว เราหวังว่าจะได้เห็นประเทศไทยเป็นชาติแรกๆ ในภูมิภาค ที่เป็นผู้นำในการปกป้องมหาสมุทรของโลก โดยขณะนี้ประเทศในอาเซียนที่ได้ลงนามแล้ว ประกอบด้วย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ เวียดนาม ลาว สาเหตุที่เราต้องเร่งให้สนธิสัญญาฉบับนี้มีผลบังคับใช้ เพราะเราต้องการที่จะสร้างพื้นที่คุ้มครองทางทะเลให้ได้ตามเป้าหมาย นั่นคือ 30% ของทะเลทั้งหมด ซึ่งมหาสมุทรโลกในปัจจุบันได้รับการปกป้องไม่ถึง 1% และยังเผชิญกับภัยคุกคาม ทั้งประมงทำลายล้าง มลพิษ อุตสาหกรรมเหมืองทะเลลึกงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature and led by Global Fishing Watch เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาระบุว่า ข้อมูลเรือประมงพาณิชย์ถึง 75% ได้รับการปกปิดจากสาธารณชน..ขณะที่รายงาน: 30×30 จากสนธิสัญญาทะเลหลวงสู่เขตคุ้มครองระบบนิเวศทางทะเล เผยว่าภัยคุกคามที่เกิดในทะเลหลวงกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2565 มีการทำประมงในทะเลหลวงเพิ่มขึ้นถึง 22.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยระหว่างนี้เรือประมงพาณิชย์ในทะเลหลวงใช้เวลาจับปลารวมกันทั้งหมด 8,487,894 ชั่วโมง..สนธิสัญญาทะเลหลวง” จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องระบบนิเวศที่ใหญ่ที่สุดของโลก และประเทศต่างๆต้องเร่งให้สัตยาบัน เพื่อเริ่มกระบวนการปกป้องและฟื้นฟูมหาสมุทรทั่วโลก

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy
slot online situs slot gacor hari ini daftar istanaslot https://buletin303.com/ https://134.209.107.98:777/ https://188.166.233.138/

https://gangster4d.netlify.app/

gangster4d slot

gangster4d

Skip to content