18 มีนาคม 2566 เทศบาล-เอกชน-ประชาชน ร่วมใจแปลงขยะเป็นปุ๋ย

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/2655851
การคัดแยกขยะแล้วนำเศษขยะมาทำปุ๋ยมีให้เห็นกันมานาน แต่มักติดขัดปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะความร่วมมือจากชาวบ้าน ขณะที่ภาครัฐเอง โดยเฉพาะท้องถิ่นไม่ได้มีงบประมาณมาก ในการสร้างโรงผลิต สุดท้ายเลยแทบไม่เกิดโรงงานผลิตปุ๋ยของรัฐในประเทศเลย
แต่ไม่ใช่กับเทศบาลนครรังสิตที่แทบไม่ต้องลงทุนกับโรงงานผลิตปุ๋ยมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท แถมได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในการแยกเศษอาหารได้ถึงวันละ 3-4 ตัน “พื้นที่เทศบาลนครรังสิต จ.ปทุมธานี มีขยะรวมวันละประมาณ 160 ตัน ในจำนวนนี้มีขยะสามารถใช้ทำปุ๋ยได้ 20% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอด
ร.ต.อ.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง จึงมองว่าเพื่อให้ขยะเหล่านี้เกิดประโยชน์ที่สุด เทศบาลควรนำขยะเหล่านี้มาทำปุ๋ย แล้วแจกจ่ายให้แก่คนในพื้นที่ที่ยังมีการทำเกษตรให้เห็นกันพอสมควร แต่ติดตรงที่ต้องใช้งบสร้างโรงผลิตปุ๋ยหลายสิบล้านบาท คงเกินกำลังเทศบาล ฉะนั้น ปีที่แล้วเราจึงร่วมมือกับเอกชน ที่มีความพร้อม ใช้สถานที่ของโรงคัดแยกขยะเดิมของเทศบาลเป็นโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์”
ร.ต.อ.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี บอกถึงที่มาของการร่วมกับ บริษัท ไบโอแอ๊กเซล ผู้ผลิตเครื่องผลิตปุ๋ย ภายใต้สโลแกน “ไปเปลี่ยนขยะไร้ค่า เป็นปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นวัตกรรมเครื่องแปลงขยะจากเศษอาหารเป็นปุ๋ยของบริษัท สามารถแปลงขยะเป็นปุ๋ยได้ภายใน 24 ชม. ด้วยเทคโนโลยีระบบบดย่อยและรีดน้ำ ทำให้ย่อยได้ทั้งผัก ผลไม้ ผักตบชวา เศษอาหาร หรือแม้แต่กระดูก และน้ำแกง และได้รับการขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย สำหรับ
การทำงาน จะทำงานร่วมกับจุลินทรีย์ซุปเปอร์แบ็ก ที่วิจัยและพัฒนาโดยภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพโมเลกุล และชีวสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่จดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว โดยการย่อยสลาย
เกิดภายใต้การควบคุมอุณหภูมิ และความชื้นที่เหมาะสมในถังหมัก นอกจากได้ปุ๋ยยังมีผลพลอยได้
เป็นน้ำหมักจากกระบวนการแยกน้ำของเครื่อง สามารถทำเป็นน้ำหมักชีวภาพรดพืชได้ โดยขยะ 20 ตัน ผลิตปุ๋ยได้ 10 ตัน